CANON 40 D

ขาย BODY กล้อง D-SLR CANON EOS 40 D สภาพใหม่ ใช้งานน้อย อุปกรณ์ ยกกล่อง จอ LCD 3.0 นิ้ว Live View มองภาพหลังจอได้ก่อนถ่าย กำจัดฝุ่นที่เซ็นเซอร์

Canon EOS 40D ใช้เซ็นเซอร์ CMOS ที่พัฒนาขึ้นใหม่โดยแคนนอนเองขนาด APS-C (ประมาณ 22.2 x 14.8 มม.) คูณทางยาวโฟกัสเพิ่ม 1.6 เท่า ให้ความละเอียดสูงสุด 10.1 ล้านพิกเซล บันทึกภาพได้คมชัด ไล่โทนภาพและเฉดสีอย่างนุ่มนวล มีค่าไดนามิกเร้นจ์กว้าง และมี Noise ต่ำ ให้ภาพที่ใสเคลียร์และชัดเจนในทุกสภาพแสง โดยมีช่วง ความไวแสงกว้าง จาก ISO 100 ถึง 1600 แบ่งละเอียดขั้นละ 1/3 สตอป และเพิ่มความไวแสง ISO ได้ สูงสุดถึง 3200 ทำให้บันทึกภาพได้คมชัดแม้ว่าจะถ่ายภาพในที่มืดหรือแสงน้อย หรือเมื่อต้องการใช้ความเร็วชัตเตอร์สูง เพื่อหยุดสิ่งเคลื่อนไหวต่างๆ

หน่วยประมวลผลภาพใหม่ DIGIC III บันทึกเฉดสีได้มากถึง 14 บิต (16,384 โทน) ทำให้ได้ภาพ ที่มีรายละเอียดและโทนภาพครบถ้วนสมบูรณ์มากที่สุด ได้สีสันที่สวยงามดูเป็นธรรมชาติ และด้วยการประมวลผลที่รวดเร็ว ทำให้ สามารถถ่ายภาพต่อเนื่องได้เร็วสูงสุดถึง 6.5 เฟรม/วินาทีโดยที่ยังคงให้ Color Dept ที่ 14 บิต และมีฟังก์ชั่นลด Noise เมื่อบันทึกภาพด้วยเวลานาน หรือเมื่อใช้ความไวแสงสูง ให้ภาพที่ใสเคลียร์ และหากบันทึกเป็นไฟล์ฟอร์แมท RAW หรือ sRAW จะสามารถบันทึกเป็นไฟล์ TIFF 16 บิตได้โดยใช้ซอฟท์แวร์ Digital Photo Professional (DPP) ที่ให้มาพร้อมกับตัวกล้อง

sRAW คือคุณสมบัติใหม่อีกอย่างหนึ่งของ EOS 40D เพิ่มเติมจากไฟล์ RAW โดยได้ไฟล์ RAW ในความละเอียด ที่ลดลงเหลือครึ่งหนึ่ง เหมาะกับงานที่ไม่ต้องการขยายใหญ่มาก แต่ต้องการปรับแต่งไฟล์ในภายหลังด้วยซอฟท์แวร์ Digital Photo Professional (DPP) ทำให้ถ่ายภาพได้มากขึ้น และประหยัดเนื้อที่ในการจัดเก็บไฟล์ภาพนอกจากคุณภาพของเซ็นเซอร์ภาพ CMOS แล้ว แคนนอนยังมีเลนส์ตระกูล EF และ EF-S ที่มีคุณภาพสูง ให้เลือกใช้มากมาย โดยเฉพาะเลนส์รุ่น IS ที่มีระบบป้องกันภาพสั่นไหว (Image Stabilizers) เลือกใช้งานได้ 2 รูปแบบ ช่วยลดการสั่นไหวจากการถือกล้องถ่ายภาพด้วยมือได้เป็นอย่างดี ทำให้ได้ภาพที่คมชัดแม้ว่าจะถ่ายภาพในสภาพแสงน้อยและใช้ความเร็วชัตเตอร์ต่ำ หรือเมื่อใช้เลนส์ทางยาวโฟกัสสูงโดยไม่ใช้ขาตั้งกล้อง รวมทั้ง การถ่ายภาพ ด้วยเทคนิคแพนกล้องตามสิ่งเคลื่อนไหว ได้ภาพสิ่งที่ต้องการคมชัดและฉากหลังพร่ามัว อย่างสวยงามและง่ายดาย

EOS 40D มีระบบกำจัดฝุ่นที่เซ็นเซอร์ภาพด้วยการใช้ Infrared-absorbing glass วางอยู่เหนือฟิลเตอร์โลว์พาส หน้าเซ็นเซอร์ CMOS ช่วยป้องกันไฟฟ้าสถิตย์ ลดปัญหาเรื่องฝุ่นติดหน้าเซ็นเซอร์ ได้เป็นอย่างดี และมีชุดเซ็นเซอร์ Self Cleaning Sensor Unit ที่สร้างแรงสั่นสะเทือนให้ฟิลเตอร์โลว์พาสเพื่อทำให้ฝุ่นหลุดออกไป จะเลือกให้ ทำงานอัตโนมัติทุกครั้งที่เปิดปิดกล้อง หรือสั่งให้ทำงานเองก็ได้โดยปรับจากเมนู หากยังมีฝุ่นติดอยู่สามารถเลือกเมนู Dust Delete Data จากนั้นใช้ฟังก์ชั่น Dust Delete ในซอฟท์แวร์ Digital Photo Professional (DPP) เพื่อลบฝุ่น ออกจากภาพ

คุณสมบัติที่โดดเด่น
EOS 40D มีระบบการทำงานที่รวดเร็วมาก พร้อมบันทึกภาพหลังจากเปิดสวิตช์กล้องในเวลาเพียง 0.15 วินาที สามารถถ่ายภาพต่อเนื่องได้เร็วถึง 6.5 เฟรม/วินาที เหมาะอย่างยิ่งสำหรับบันทึกภาพสิ่งเคลื่อนไหวต่างๆ หรือ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว เช่น ภาพกีฬา ภาพข่าว หรือภาพสัตว์ป่าในธรรมชาติ โดยบันทึกต่อเนื่องได้มากถึง 75 ภาพ ที่ฟอร์แมท JPEG Large/Fine หรือจะเลือกบันทึกที่ความเร็วต่ำ 3 เฟรม/วินาทีก็ได้ และชัตเตอร์ทนทาน กับการใช้งานได้ถึง 100,000 ครั้ง มีความเร็วชัตเตอร์สูงสุด 1/8000 วินาที ช่วงเวลาการลั่นชัตเตอร์เพียง 59 มิลลิวินาทีเท่านั้น และสัมพันธ์แฟลชที่ความเร็วชัตเตอร์ 1/250 วินาทีหรือต่ำกว่า

ฟังก์ชั่นการถ่ายภาพ
Canon EOS 40D มีระบบบันทึกภาพให้เลือกใช้งานหลากหลายมาก ครอบคลุมการบันทึกภาพทุกรูปแบบ รองรับตั้งแต่นักถ่ายภาพมือใหม่ที่เริ่มต้นฝึกหัดการถ่ายภาพ ไปจนถึงการใช้งาน ในระดับมืออาชีพ ที่ต้องการปรับตั้งระบบการทำงานทั้งหมดด้วยตนเอง โดยมีแป้นหมุนวงกลมใช้เลือกโหมดการทำงานแบบต่างๆ แสดงเป็นตัวอักษรและไอคอนที่ใช้งานได้อย่างรวดเร็ว แบ่งออกเป็นโหมดบันทึกภาพที่เรียกว่า เบสิคโซน เริ่มจาก ฟูลออโต้ กล้องปรับทุกอย่างให้อัตโนมัติ อาทิ ปรับโฟกัส วัดแสง ปรับความเร็วชัตเตอร์ รูรับแสง ความไวแสง ไวท์บาลานซ์ เป็นต้น เหมาะสำหรับใช้บันทึกภาพทั่วๆ ไป หรือจะใช้โปรแกรมสำเร็จรูปสำหรับถ่ายภาพบุคคล ภาพทิวทัศน์ ภาพกีฬา ภาพบุคคลกลางคืน และโหมดปิดแฟลช หากคุณมีประสบการณ์ในการถ่ายภาพมาบ้างแล้ว จะมีโหมดบันทึกภาพครีเอทีฟโซน ให้เลือกใช้งาน 5 แบบ ตั้งแต่แมนนวล ต้องปรับความเร็วชัตเตอร์และรูรับแสงเอง ออโต้ความเร็วชัตเตอร์ ออโต้รูรับแสง โปรแกรมอัตโนมัติ และโปรแกรมชัดลึก ที่สามารถกำหนดจุดที่ต้องการ ให้มีความคมชัดได้จากระยะใกล้ถึงไกล โดยทั้ง 5 โหมด สามารถปรับฟังก์ชั่นได้เกือบทุกอย่าง อาทิ ชดเชยแสง ถ่ายภาพคร่อม ไวท์บาลานซ์ เลือกพิกเจอร์สไตล์ หรือปรับความไวแสง

สิ่งที่น่าสนใจมากอีกอย่างคือ ฟังก์ชั่น Camera user settings ที่คุณสามารถล๊อคค่าต่างๆ ในโหมดบันทึกภาพ และเมนูที่ใช้งานเป็นประจำ บันทึกเก็บเอาไว้ได้ 3 ตำแหน่ง (C1, C2, C3) หากต้องการใช้งาน เพียงหมุนวงแหวนปรับเลือกโหมดไปที่ตำแหน่งที่ต้องการ จะพร้อมใช้งานได้ทันที ไม่ต้องเสียเวลาปรับตั้งใหม่ให้ยุ่งยาก ทำให้การใช้งานรวดเร็วขึ้นมาก

ทางด้านระบบวัดแสงเป็นแบบแบ่งพื้นที่เป็น 35 ส่วน เลือกระบบวัดแสงได้หลายแบบ อาทิ Evaluative วัดแสงสัมพันธ์กับจุดโฟกัส หากใช้โหมดบันทึกภาพ Basic Zone จะเลือกระบบวัดแสงแบบนี้ให้อัตโนมัติ ถัดมาคือระบบวัดแสงเฉลี่ยหนักกลาง, พาร์เทียล และเพิ่มระบบวัดแสงเฉพาะจุดที่ครอบคลุมพื้นที่ 9% ของภาพ หรือ 3.8% ของใจกลางช่องมองภาพ

Canon EOS 40D มีช่วงความไวแสง ISO 100-1600 สามารถปรับเพิ่มได้สูงสุดที่ ISO 3200 และเป็นครั้งแรกที่แคนนอนใช้ระบบ Auto ISO ปรับความไวแสงอัตโนมัติในกล้องตระกูล EOS โดยใช้งานได้ในโหมด Creative Zone หากแสงน้อยกล้องจะเพิ่มความไวแสงให้เองเพื่อลดปัญหาเรื่องการสั่นไหวที่เกิด ขึ้นขณะถ่ายภาพ และแสดงค่าความไวแสงให้ทราบตลอดเวลาในช่องมองภาพและบนจอ LCD ทางด้านบน

ฟังก์ชั่นอีกอย่างที่น่าสนใจมากคือ Live View ที่ได้รับการพัฒนาต่อเนื่องมาจากกล้อง EOS-1D Mark III ทำให้สามารถดูภาพจากจอ LCD ขณะที่กำลังถ่ายภาพได้ โดยแสดงภาพแบบ 100% เต็ม พร้อมทั้งแสดงข้อมูลต่างๆ อาทิ กรอบโฟกัสที่เลื่อนตำแหน่งได้ทั่วทั้งภาพ สเกลวัดแสง ความเร็วชัตเตอร์ รูรับแสง ความไวแสง พิกเจอร์สไตล์ โหมดแฟลช เป็นต้น และสามารถใช้ระบบออโต้โฟกัสได้โดยการเข้าไปปรับตั้งจากคัสตอมฟังก์ชั่นที่ 3 ลำดับที่ 6 (C.Fn III-6-1) เพียงกดปุ่ม AF-ON ค้างไว้กระจกสะท้อนภาพจะดีดตัวลงเพื่อให้ระบบออโต้โฟกัสทำงาน เมื่อโฟกัสได้และปล่อยนิ้วจากปุ่ม AF-ON กระจกสะท้อนภาพจะดีดตัวกลับขึ้นไป และแสดงภาพ Live View ที่จอ LCD เหมือนเดิม (ซึ่งเป็นส่วนที่พัฒนาเพิ่ใขึ้นจาก EOS 1D Mark III )

นอกจากนี้ฟังก์ชั่น Live View ยังสามารถปรับซูมขยายภาพได้ 5 หรือ 10 เท่า เพื่อตรวจสอบความคมชัดและระยะชัดลึก เหมาะสำหรับงานถ่ายภาพในสตูดิโอและงานนอกสถานที่ และยังมีโหมดลดเสียงชัตเตอร์จากการถ่ายภาพ เลือกใช้ได้ 2 โหมด เหมาะกับงานบางอย่างที่ไม่ต้องการให้มีเสียงดังรบกวน และแคนนอนยังได้ให้ซอฟท์แวร์ EOS Utilities ทำให้ใช้ฟังก์ชั่น Live View กับคอมพิวเตอร์ได้ โดยจะแสดงภาพให้เห็นบนจอคอมพิวเตอร์ ผ่านการเชื่อมต่อ ด้วยสายอินเทอร์เฟส USB 2.0 Hi-speed หรือจะใช้ระบบไร้สายก็ได้ โดยใช้ร่วมกับอุปกรณ์เสริม Wireless File Transmitter WFT-E3 (IEEE 802.11b/g)




ในฟังก์ชั่น Live View คุณยังสามารถจำลองการแสดงภาพแบบเหมือนจริงจากการเปิดรับแสงได้ หากเปิดรูรับแสงแคบเกินไป หรือใช้ความเร็วชัตเตอร์สูงเกินไป ภาพที่ปรากฏบนจอ LCD จะมืดลงเหมือนกับภาพที่ได้จริง โดยเข้าไปปรับตั้งจากคัสตอมฟังก์ชั่น IV หากภาพโอเวอร์ตัวอักษร Exp.SIM จะกระพริบเตือนให้ทราบ และสเกลวัดแสงจะเลื่อนตำแหน่งไปทางบวก